การขุดเหรียญ Cryptocurrency ก็จะมีวิธีการขุดที่หลากหลายรูปแบบ หลายคนอาจจะเข้าใจว่าก็ใช้แค่การ์ดจอหรือไม่ก็อุปกรณ์การขุดต่างๆ มาขุดแล้วโหลดโปรแกรมเท่านี้ก็เสร็จแล้ว แต่จริงๆ การขุดมันก็แยกย่อยลงไปอีก เพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นในบทความนี้จะมาอธิบายถึงความแตกต่างในการขุดกันว่าการขุดแบบ Pool และแบบอื่นๆ คืออะไรและมันต่างกันยังไงบ้าง
การขุดเหรียญแบบ Pool คืออะไร ? (กดเลือกอ่านได้)
การขุดเหรียญเกิดขึ้นตอนไหน
การขุดเหรียญ Cryptocurrency เริ่มต้นเลยเกิดขึ้นเมื่อปี 2009 ได้มีการขุดเหรียญ Bitcoin ขึ้น ซึ่งมันเป็นสกุลเงินดิจิตอลตัวแรกของโลกและให้ผลตอบแทนที่เยอะอย่างมาก เนื่องจากว่าสมัยนั้นเรื่องการขุด Cryptocurrency ยังไม่ได้เป็นที่แพร่หลายมากนัก และยังเป็นเฉพาะกลุ่มอยู่จนถึงปัจจุบันก็มีคนให้ความสนใจเยอะมากๆ ถึงขนาดที่ประเทศเอลกวาดอร์ได้ถึงขั้นสามารถใช้ชำระเงินซื้อของภายในประเทศเลย
ในเรื่องของการขุดก็จะมีอุปกรณ์การขุดเหรียญ Crypto อยู่หลักๆ ก็ได้แก่ GPU (การ์ดจอ), CPU (หน่วยประมวลผลคอมพิวเตอร์) Asics เครื่องขุดสำหรับอัลกอริทึ่มเหรียญ Bitcoin โดยเฉพาะ ซึ่งแต่ละตัวก็มีการทำงานที่แตกต่างกันไป รวมถึงความสามารถในการขุดด้วย ตรงนี้คุณอาจจะต้องไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหรียญที่คุณอยากขุดและความสามารถของแต่ละอุปกรณ์

การ์ดจอของทาง Rigmaxi ที่ใช้ประกอบตัวขุดเหรียญ
การขุดแบบ Pool คืออะไร
การขุดแบบ Pool (Mining Pool) เป็นการรวมตัวกันของนักขุดที่จะมีการนำแรงของตัวเองจับมารวมกันและร่วมในการขุด ซึ่งวิธีนี้จะดีอย่างมากสำหรับคนที่มี Rig ขนาดเล็ก เพื่อจะได้เอาพลังเล็กๆ มารวมกันช่วยกันขุดทำให้ขุดได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และไม่โดนเจ้าใหญ่แย่งบล็อกไปทั้งหมด นอกจากนี้การขุดแบบ Mining Pool ก็จะช่วยให้เราได้รับผลตอบแทนได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะเรามีกลุ่มนักขุดที่ได้รวมตัวกันช่วยกันขุด แต่ถ้าเกิดใครที่มีกำลังมากพอ วิธีการขุดแบบ Mining Pool อาจจะไม่ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากเท่าไหร่
สิ่งที่สำคัญเลยในการขุดแบบนี้อย่างที่ได้เล่าไปว่ามันคือการรวมตัวกันของนักขุด แน่นอนว่าพอเราขุดเจอ Block แล้วเราก็จะต้องมีการนำมาหารกันตามจำนวนนักขุดที่รวมกลุ่มอยู่ด้วยกันรวมถึงผันแปรไปตามกำลังขุดของแต่ละคนด้วย สำหรับคนที่มี Rig กำลังการขุดน้อยหรือเป็น Rig ขนาดเล็กก็สามารถไปร่วมขุด Pool ได้เช่นกัน
สำหรับการขุด Pool ก็มีให้เลือกเกือบทุกโปรแกรมขุด Cryptocurrency แล้วแต่ว่าเราจะเลือกเป็นตัวไหน บาง Pool ก็สามารถขุดพร้อมกัน 2 เหรียญได้แต่มันก็จะกินกำลังไฟมากยิ่งขึ้นด้วย
ข้อดีของการขุดแบบ Pool

1. ได้ผลตอบแทนที่มั่นคง
หากคุณมีกำลังการขุดที่น้อยแน่นอนว่าการประมวลผลหรือเขียน Blockchain ก้อนใหม่ขึ้นมาคงเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อคุณขุดแบบ Pool คุณจะไม่ได้ขุดคนเดียวอีกต่อไป แต่ก็จะมีคนอื่นๆ มาร่วมพลังกับคุณช่วยกันขุดบล็อกและเพิ่มโอกาสในการสร้าง Block ใหม่ๆ ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งหากคุณขุดแบบ Solo ก็อาจจะไม่ได้โชคดีที่จะเขียนบล็อกได้ตลอดมันยังมีโอกาสที่จะเขียนไม่ทันคนอื่นด้วย
2. ความซับซ้อนทางเทคนิคน้อยกว่า
แน่นอนว่าการขุด Cryptocurrency เราต้องมีการโหลดโปรแกรมต่างๆ ที่เราต้องการมาใช้สำหรับขุดเหรียญ ซึ่งบางโปรแกรมมีความซับซ้อนอย่างยิ่งทำให้ยากมากสำหรับมือใหม่ แต่หากคุณขุดแบบ Pool Mining ส่วนใหญ่แล้วโปรแกรมขุดเหรียญจะค่อนข้างใช้งานง่ายอย่างมาก ไม่มีความซับซ้อนมากนักหากเทียบกับการขุดแบบ Solo ที่ต้องมาตั้งค่าโปรแกรม
การขุดแบบ Solo หรือเรียกว่าการขุดคนเดียว

การขุดแบบ Solo คือ การขุดเหรียญ Cryptocurrency ด้วยตัวคนเดียวไม่มีคนร่วมเพิ่มแรงแต่อย่างใด ไม่ว่าใครก็สามารถขุดได้ทั้งนั้น ส่วนมากที่ใช้การขุดแบบ Solo มักจะเป็นคนที่มี Rig ใหญ่ มีจำนวนการ์ดจอหรือ Asics ที่เยอะเพื่อให้คุ้มค่าต่อการขุด หรือสำหรับคนที่ชอบรายได้แบบเต็มๆ ไม่ต้องการหารก็จะใช้วิธีนี้ในการขุดด้วยเช่นกัน
แต่การขุดแบบ Solo ก็ใม่ค่อยได้รับความนิยมเพราะผลตอบแทนไม่ค่อยคุ้มค่า มันจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่มีพลังในการประมวลผลสูงมากๆ และมีโอกาสที่น้อยจะได้รับรางวัลเนื่องจากว่าสร้าง Block ไม่ทันคนอื่น ทำให้ผลลัพธ์ไม่โอเคเท่าที่ควร
สรุป
การขุดแบบ Pool ก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไปแต่ก็ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับนักขุด เพราะมันสามารถสร้างผลตอบแทนได้สม่ำเสมอและลดความเสี่ยงในการที่ขุดได้ปริมาณน้อย เพราะมันก็จะมีการหารซึ่งเงื่อนไขก็ขึ้นอยู่กับแต่ละโปรแกรมการขุด และคนที่สนใจทำเหมืองขุดและจะไปขุด Pool อาจจะต้องมีการศึกษาเรื่องโปรแกรมสักนิดหนึ่งเพราะเรื่องของการจ่ายผลตอบแทนแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน รวมถึงอัตราค่าธรรมเนียมต่างๆ อีกด้วย อันนี้ต้องเช็คให้ดี