การขุดเหรียญหลายคนอาจจะเคยได้ยินคำนี้กันอย่างแน่นอน เพราะในช่วงที่ผ่านมาคำๆ นี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งมีความสอดคล้องกับกระแส Cryptocurrency ที่มีคนให้ความสนใจกันทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หันมาศึกษาเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง เมื่อเกิดกระแสขึ้นมาแล้วอีกสิ่งที่ตามมาคือ “การขุดเหรียญ” โดยจะเป็นการหาเหรียญคริปโตสกุลเงินต่างๆ อีกวิธีหนึ่งโดยใช้ Hardware ในการขุดโดยเฉพาะ ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกันว่าการขุดเหรียญคืออะไร และสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Cryptocurrency ทั้งหมด
การขุดเหรียญคืออะไร ? มือใหม่สายขุดเข้าใจครบจบในที่เดียว (กดเลือกอ่านได้)
การขุดเหรียญคืออะไร ?

การถอดรหัสสมการทางคณิตศาสตร์โดยใช้ Hardware คอมพิวเตอร์มาช่วยคำนวณ เพื่อยืนยันการทำธุรกรรม เมื่อแก้สมการสำเร็จจะได้รับรางวัลเป็นเหรียญ (Coin) ที่เพิ่งขุด เป็นรางวัลตอบแทนที่คุณได้ลงแรงไป ซึ่งการขุดเหรียญครั้งแรกต้องย้อนกลับไปช่วงการกำเนิด Bitcoin ใหม่ๆ ที่ตอนนั้นชายนิรนามชื่อ “Satoshi Nakamoto” สร้างเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ได้สำเร็จเป็นตัวแรกของโลก
ทำให้ Satoshi ก็ได้เริ่มลงมือขุดเหรียญ Bitcoin ด้วยเช่นกัน ช่วงนั้นได้รางวัลสูงมากถึง 50 Bitcoin ต่อบล็อกเลยทีเดียว และต่อๆ มาเมื่อโลก Cryptocurrency ได้มีการพัฒนามากขึ้นก็ทำให้เกิดสกุลเงินใหม่ๆ ตามขึ้นมาอีกมากมาย และสามารถขุดได้เหมือนกับ Bitcoin ด้วย
คริปโตเคอเรนซี่ คืออะไร?

คริปโตเคอเรนซี่ คือ สกุลเงิน Digital ที่มีการเข้ารหัสการทำธุรกรรมผ่านระบบ “บล็อกเชน” สามารถใช้แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ระหว่างกันได้ และทำการซื้อ – ขายกันได้จริง คล้ายกับเงิน Fiat ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน เพียงแต่มีความแตกต่างตรงที่ว่าเงิน Fiat จะเป็นระบบ Centralized กล่าวคือมีตัวกลางอย่างธนาคารหรือบุคคลที่เชื่อถือได้คอยเป็นตัวกลางในการโอนเงิน
แต่สำหรับ Cryptocurrency จะเป็นระบบ Decentralized ทำให้เราไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางอีกต่อไป สามารถโอนเงินโอนเหรียญไปหาบุคคลอื่นๆ ได้แบบโดยตรง และตัวระบบก็มีความน่าเชื่อถือในตัวของมันอยู่แล้วจากการตรวจสอบธุรกรรมตลอดเวลาจากเครือข่ายและยืนยันความถูกต้องของทุกคน นอกจากนี้ยังไม่มีใครสามารถควบคุมหรือเป็นเจ้าของทั้งระบบได้ ทำให้คนเชื่อถือมันมากว่ามีความปลอดภัย โปร่งใสในระดับสูงเลย
เราจะขุดเหรียญได้ยังไง

ในการขุดเหรียญ Cryptocurrency จำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์อย่าง “Hardware” ในการขุดเหรียญ แต่จริงๆ แล้วมันสามารถใช้ Hardware ได้หลากหลายอย่างมาก ที่นิยมและเป็นสากลทั่วไปก็ได้แก่ CPU (ชิพประมวลผลคอมพิวเตอร์), GPU (การ์ดจอ), Asic เป็นหลัก แต่ที่นิยมมากที่สุดจะเป็นชุด Rig เพราะมันสามารถขุดได้หลากหลายอัลกอริทึ่มหลายเหรียญ
และยิ่งคนที่รับความเสี่ยงไม่ได้การใช้ Rig ขุดก็ถือว่าช่วยลดได้ในระดับหนึ่งเลย เพราะหากเหรียญที่เราขุดราคาตกเกินกว่าที่เราต้องการ เราก็แค่ย้ายไปขุดเหรียญคริปโตยอดนิยมอื่นๆ ก็เท่านั้น ง่ายๆ เลยสำหรับคนเริ่มต้นการขุดอาจจะต้องเตรียม
- พื้นที่จัดวางอุปกรณ์ในการขุดเหมือง จำเป็นต้องหาพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพราะขึ้นชื่อว่าอุปกรณ์ Hardware แล้วและยิ่งต้องเสียบไฟไว้ตลอดเวลา ทำให้เกิดความร้อนได้และเพื่อไม่ให้มันเสื่อมสภาพไวเกินไป
- มีชุดริกขุดหรืออุปกรณ์อื่นๆ สำหรับการขุด แต่ถ้าใครมองหาชุดเริ่มต้นการขุดลองไปดู Rig รุ่นแนะนำของเราก่อนได้เลย
- เลือก Software โปรแกรมขุดเหรียญ Cryptocurrency ปัจจุบันก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบปรับแต่งเองได้รวมถึงแบบสำเร็จรูปก็มี หรือถ้าคุณไม่ต้องการขุดเองก็ขายแรงขุดให้กับคนอื่นได้เช่นกัน

ตัวอย่าง Software ของ HiveOs
และนี่คือ 3 ขั้นตอนง่ายๆ ในการเริ่มต้นขุด แต่ก่อนอื่นคุณจะต้องมีการศึกษาเหรียญที่ต้องการขุดจาก White Paper ของเหรียญด้วยนะ เพราะมันจะเป็นตัวบอกได้ว่าเหรียญนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร ในอนาคตจะเป็นอย่างไร มันช่วยให้เราคาดการณ์ถึงแนวโน้มของเหรียญได้ในระดับหนึ่งเลย
Rig กับ Asic ต่างกันยังไง?

Rig คือการนำการ์ดจอที่มีการประมวลสูง มาประกอบเข้ากับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ใช้ขุดเหรียญได้หลายชนิด และมีอิสระในการขุดเหรียญมากกว่า ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับเหรียญใดเหรียญหนึ่ง เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้น้อย เพราะด้วยสภาพตลาด Cryptocurrency มีความผันผวนสูงอย่างมาก ทำให้บางคนอาจจะรับความเสี่ยงตรงจุดนี้ไม่ไหว ในตัวเลือกของ Rig จะดูเหมาะกว่า
Asic เป็นเครื่องขุดเหรียญ ที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับการขุดโดยเฉพาะ มีอัตราการขุดที่สูงกว่า Rig แต่จะกินไฟ เสียได้ง่าย และเลือกขุดเหรียญได้น้อย โดยสามารถขุดได้เฉพาะเหรียญที่สร้างด้วย Algorithm SHA-256 เท่านั้น และในตระกูลเหรียญ Crypto ที่สร้างด้วยอัลกอริทึ่มดังกล่าวมีน้อยนิดเท่านั้น
ไม่ใช่มีเพียงแค่ Rig กับ Asic เท่านั้นที่สามารถขุดได้ มันยังมีอุปกรณ์ในการขุดอีกมากมายขึ้นอยู่กับการดัดแปลงของแต่ละคนด้วย มีกระทั่งคนที่ใช้รถ Tesla ในการขุดก็มี (แอดเห็นข่าวแล้วอึ้งเลย)
เพื่อความเข้าใจมากขึ้น ลองอ่านบทความของ Rigmaxi เรื่อง Rig VS Asic มีความแตกต่างกันอย่างไร
เราจะทำเงินจากการขุดเหรียญได้ยังไง?

ในการขุดเหรียญ Cryptocurrency นั้นเราจะได้รับผลตอบแทนมาเป็นเหรียญที่เราขุด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราขุดเหรียญ Bitcoin แน่นอนว่าเหรียญที่เราได้ก็คือ Bitcoin กลับมา แต่บางเหรียญอาจจะให้เป็นพวก Transaction Fee หรือไม่เสียค่าทำธุรกรรมเมื่อได้ใช้งานเหรียญนั้น ซึ่ง Dogecoin เองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่สำหรับคนที่ขุดเหรียญและได้รางวัลกลับมาเป็นเหรียญสามารถแบ่งได้เป็นดังนี้
1. นำเหรียญที่ขุดมาได้แล้วนำไปแลกเปลี่ยนทันที
เหมาะกับคนที่ต้องการใช้เงินทันทีและไม่ได้เก็บไว้เพื่อเก็งกำไรเพื่อให้มันมีมูลค่ามากกว่าเดิมจากที่เราขุดมันมาได้
2. เก็บไว้เก็งกำไร
แน่นอนว่าด้วยตลาด Cryptocurrency ที่มีความผันผวนสูงทำให้ราคาของมันอาจจะขึ้นหรือลงก็ได้ขึ้นอยู่กับจังหวะช่วงเวลานั้นๆ รวมถึงสภาพของเศรษฐกิจเองก็ด้วย แต่ก็มีหลายคนที่ขุดเหรียญแล้วได้สะสมไว้ เมื่อถึงเวลาที่ได้ตามมูลค่าที่ต้องการก็ขายทิ้งทันที ทำให้เราได้กำไรเพิ่มมากขึ้นจากการขุดเหรียญด้วย
3. นำไป Staking ไว้
การทำ Staking ก็เป็นอีกหนี่งวิธีที่ได้รับความนิยมในหมู่นักขุดเป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นการนำเหรียญที่เรามีไป Staking ไว้ โดยอาจจะไปไว้ใน Wallet หรือไม่ก็ Exchange ที่รองรับ และผลตอบแทนที่เราได้กลับมาคือ รางวัลหรือเหรียญสกุลต่างๆ ตามเงื่อนไขของการ Staking นั่นเอง ไว้เดียวแอดจะเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่อง Staking ไว้ให้อ่านเพื่อความเข้าใจกัน
รู้จักกับ Crypto Wallet ที่นักขุดต้องมี

ปกติเงิน Fiat (เงินที่เราใช้ปัจจุบัน) จำเป็นจะต้องมีการเก็บรักษาเงินภายในกระเป๋าตังของเรา หรือถ้าไม่เก็บไว้ในกระเป๋าตังก็เก็บไว้กับธนาคารเพื่อรักษาความปลอดภัยและไม่ให้ถูกขโมยจนเกิดความเสียหายกับทรัพย์สิน ซึ่ง Cryptocurrency เองก็มีกระเป๋าตังด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะนักขุดจำเป็นจะต้องมี “Crypto Wallet” เพื่อไว้เชื่อมต่อกับแหล่งขุดของเรา พอขุดมาปุ๊บรางวัลที่เราจะได้รับจะได้ถูกส่งเข้ากระเป๋าของเรานั่นเอง
สำหรับ Crypto Wallet นอกจากจะเชื่อมต่อกับโปรแกรมการขุดเหรียญของเราแล้ว มันยังทำหน้าที่เปรียบเสมือนกับ “กุญแจ” ใช้สำหรับไขเข้าไปเอาเงินในตู้เซฟของเรา ซึ่งภายในนั้นก็จะมีข้อมูลการทำธุรกรรมของเราไว้ด้วย
สำหรับตัว Crypto Wallet สามารถแบ่งอีกได้ 2 ประเภทคือ
Hot Wallet คือ กระเป๋าตังแบบออนไลน์ โดยจะเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เราเปิดคอมเปิดมือถือก็สามารถแลกเปลี่ยนเหรียญได้ทันที Real Time เลย เหมาะกับสายเทรดหรือคนที่ต้องการความสะดวกมากกว่า
Cold Wallet คือ อุปกรณ์ที่มีหน้าตาคล้ายกับ Flash Drive เป็นอุปกรณ์แบบ Hardware ทำหน้าที่เป็นเหมือนกระเป๋าตังเช่นกัน แต่ต้องโหลดโปรแกรมมาเชื่อมต่อเข้ากับกระเป๋าตังของเราเสียก่อนเพื่อให้เราโยกย้ายหรือแลกเปลี่ยนกับผู้อื่นได้ มีความปลอดภัยสูง นักขุดเหรียญสายสะสมมักจะใช้ Cold Wallet กันเพื่อความปลอดภัย
วิธีการคำนวณค่าไฟเบื้องต้นในการขุดเหรียญ

เมื่อคุณมีความสนใจเกี่ยวกับการขุดเหรียญ Cryptocurrency แน่นอนว่าการขุดก็ต้องมีเรื่องของไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยในการขุดเราจำเป็นจะต้องมีการคิดคำนวณค่าไฟและนำมาหักลบกับรายได้ที่เราได้รับ หากเราไม่มีการคิดคำนวณเลยก็อาจจะทำให้เราขาดทุนได้
ในการคิดคำนวณนั้นเราสามารถดูเรทค่าไฟได้จากเว็บของการไฟฟ้า เพราะราคาค่าไฟของรูปแบบบ้านแต่ละแบบก็มีความแตกต่างกันไป แต่วิธีการคิดเหมือนกัน
หากคุณดูเรื่อง Rig ที่ต้องการได้แล้วและอยากรู้วิธีการคำนวณค่าไฟ ลองอ่านบทความ แจกเคล็ดลับวิธีการคำนวณค่าไฟขุดเหรียญ Cryptocurrency ดูก่อน
Mindset ที่สำคัญ สำหรับนักขุด

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดและคนที่ขุดอยู่แล้วรวมถึงคนที่คิดจะขุดเหรียญ Cryptocurrency จำเป็นจะต้องมี เพราะด้วยสภาพของตลาดที่มีความผันผวนสูงมาก ถ้าคุณไม่มีหลักให้ดีและไม่มีการหาข้อมูลรวมถึงการกำหนดแนวทางการขุดเป็นของตัวเองอาจจะทำให้เราขาดทุนจากการขุดได้ โดยหลักๆ Mindset ของนักขุดควรมีดังนี้
- มีการวางแผนการลงทุนอย่างเป็นระบบ
- บริหารความเสี่ยงอยู่เสมอ
- ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอด
ไม่ใช่แค่เพียงนักขุดอย่างเดียวเท่านั้น แม้กระทั่งสายเทรดรายวันเองก็ต้องมี Mindset ที่ดีเช่นกัน เพราะพวกเขาต้องวางแผนในการเข้าซื้อเหรียญ การขายเหรียญ ทำให้แต่ละวันมีความเสี่ยงสูง พวกเขาจึงมีการจัดการที่ดีอย่างมาก หากไม่มี Mindset เหล่านี้สิ่งที่ตามมาคือการ “ติดดอย” ทันที
ถ้าอยากขุด ต้องทำยังไงบ้าง ?

ถ้าคุณอยากขุดเหรียญเองก็ไม่ยาก คุณจำเป็นจะต้องมีอุปกรณ์ในการขุดเป็นของตัวเองเสียก่อน โดยเลือกระหว่าง Rig หรือเลือกจะเป็นแบบ Asic ดีขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ และอย่าลืมต้องศึกษาสกุลเงินที่ต้องการขุดทุกครั้ง เพราะแต่ละเหรียญมีการสร้างและการใช้งานที่แตกต่างกัน จุดมุ่งหมายไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าศึกษาเหรียญเดียวเหรียญอื่นๆ จะเหมือนกันหมด

ชุด Rig ที่ทาง Rigmaxi ประกอบขึ้นมาเอง
ในมุมของแอดเองชอบใช้แบบริกขุดมากกว่า เพราะว่ามันสามารถเลือกขุดเหรียญได้หลากหลาย และเมื่อเหรียญนึงราคาตกลงเราก็โยกไปเหรียญอื่นได้ ทำให้เราสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ในฝั่งของริกยังมีประกันที่ยาวนานกว่า ทำให้คลายความกังวลเรื่องอุปกรณ์มีปัญหาได้ในระดับหนึ่งเลย แต่ทั้งนี้ไม่ต้องเชื่อแอดทุกอย่าง ให้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วเลือกในแบบที่ใช่สำหรับคุณดีกว่า
สรุป
การขุดเหรียญไม่ใช่เรื่องยาก แม้กระทั่งมือใหม่ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับตลาด Cryptocurrency เลยก็สามารถขุดได้เช่นกัน เพราะตัวมันไม่ได้มีความซับซ้อนยากมากมาย แต่ปัญหาคือสภาพของตลาดมากกว่ารวมถึงความเข้าใจวัตถุประสงค์ของแต่ละเหรียญที่เราต้องการขุด เพื่อให้เรามีความมั่นใจและได้นำข้อมูลตรงนั้นมาเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจที่จะขุดเหรียญ หากใครมีความสนใจข้อมูลเกี่ยวกับตัวริกว่ามันมีแรงขุดเท่าไหร่ ทำรายได้เท่าไหร่บ้างในเว็บของ Rigmaxi ได้เลย